Sunday, April 20, 2008

ห้าสิบ โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี

โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี
 
1.โรคจมไม่ลง
2.โรคปลงไม่เป็น
3.โรคเห็นแก่ตัว
4.โรคกลัวคนเก่ง
5.โรคเบ่งศักดา
6.โรคตาบอดสี (เห็นผิดเป็นชอบ)
7.โรคดีอยู่คนเดียว
8.โรคเที่ยวอโคจร
9.โรคเอื้ออาทรไปทั่ว (จอมรับปากหรือมิสเตอร์ yes)
10.โรคกลัวไม่สวย

11.โรคสำรวยหยิบโหย่ง
12.โรคองค์ประทับ (เก่งอยู่คนเดียว แต่สื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง)
13.โรคดับเครื่องชน (ไม่รู้จักประมาณตน)
14.โรคบนทวยเทพ
15.โรคเสพของแพง
16.โรคตะแบงตลอด
17.โรคซัดทอดเคราะห์กรรม
18.โรคความจำสั้น
19.โรคหัวรั้นดื้อดึง
20.โรคใจถึงผิดที่ (เช่น พวกนักซิ่งกลางคืน กล้าบ้าบิ่นจนตัวตาย)

21.โรคกาลีเพราะปาก
22.โรคความอยากเป็นนาย
23.โรคตายผ่อนส่ง
24.โรคหลงสาวรุ่น
25.โรควุ่นเรื่องชาวบ้าน
26.โรคสามานย์ก่อนแต่ง
27.โรคแย่งสมบัติ
28.โรคเอารัดเอาเปรียบ
29.โรคเปรียบเทียบจนทุกข์
30.โรคขลุกคนพาล

31.โรคขี้เกียจสันหลังยาว
32.โรคตาขาวขี้ขลาด
33.โรคฉลาดเกินคำสั่ง
34.โรคคลั่งซูเปอร์สตาร์
35.โรคติดยาเสพติด
36.โรคย้ำคิดย้ำทำ
37.โรคไม่จำบทเรียน
38.โรคเอียนสังคม
39.โรคนิยมลัทธิ
40.โรคติเป็นนิสัย

41.โรคใจโลเล
42.โรคเสเพลเจ้าสำราญ
43.โรคบ้างานบ้าเงิน
44.โรคห่างเหินบุพการี
45.โรคเห็นใครดีไม่ได้
46.โรคใช้เงินมือเติบ
47.โรคกำเริบลืมตัว
48.โรคชั่วจนชิน
49.โรคกินของหลวง
50.โรคหลอกลวงประชาชน

โรคทั้งห้าสิบนี้เป็นโรคทางใจ เกิดขึ้นกับใครแล้วจะพลอยทำให้เสียปกติสภาพแห่งชีวิต
ถ้ารู้ทันก็รักษาหายและมีทางออก แต่ถ้ารู้ไม่ทัน นอกจากโรคไม่หายแล้ว บางทีถึงตาย

ใครป่วยด้วยโรคอะไรลองไล่เลียงสอบสวนดูด้วยตัวเอง
ไม่แน่ เมื่อพบว่าตนเป็นโรคอะไรก็อาจจะพบวิธีรักษาไปพร้อมๆ กันได้
เพราะโรคบางโรคแค่รู้ว่าตนเป็นก็หายจากโรคนั้นแล้ว

Friday, April 11, 2008

ข้อฝึกอบรมสติ (ศีลห้าในการตีความแบบหมู่บ้านพลัม)

ข้อฝึกอบรมสติข้อที่ ๑
ด้วยความตระหนักรู้ถึงความทุกข์จากการทำลายชีวิต ข้าพเจ้าตั้งสัตย์ปฏิญาณที่จะบ่มเพาะความกรุณา และเรียนรู้วิธี
ที่จะปกป้องชีวิต ผู้คน สรรพสัตว์ พืชพันธุ์ และแร่ธาตุ
ข้าพเจ้าตั้งจิตมั่นที่จะไม่ทำลายชีวิต ไม่ปล่อยให้ผู้อื่นทำลายชีวิต รวมทั้งจะไม่ส่งเสริมการทำลายชีวิตใดๆ ในโลก
นี้ไม่ว่าจะโดยความคิด และการกระทำ

ข้อฝึกอบรมสติข้อที่ ๒
ด้วยความตระหนักรู้ถึงความทุกข์จากการหาประโยชน์ส่วนตัว ความอยุติธรรม ทางสังคม การลักขโมย และการกดขี่
ข้าพเจ้าตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะทำทานด้วยการแบ่งปันเวลา พลัง และทรัพย์สิน ให้แก่ผู้มีความจำเป็น
ข้าพเจ้าตั้งจิตมั่นว่าจะไม่ลักขโมย และ ไม่ครอบครอง สิ่งที่ควรจะเป็นของผู้อื่น
ข้าพเจ้าจะเคารพทรัพย์สินของผู้อื่นและจะคอยปกป้องไม่ให้ ผู้อื่นหาผลประโยชน์บนความทุกข์ของมนุษย์ หรือ สรรพสัตว์
อื่นๆ

ข้อฝึกอบรมสติข้อที่ ๓
ด้วยความตระหนักรู้ถึงความทุกข์จากการประพฤติผิดในกาม
ข้าพเจ้าตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะบ่มเพาะความรับผิดชอบและการเรียนรู้ที่จะปกป้อง ความมั่นคง และความซื่อสัตย์ของ
ปัจเจกบุคคล คู่สมรส ครอบครัวและสังคม
ข้าพเจ้าตั้งจิตมั่นว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวมีเพศสัมพันธ์โดยปราศจากความรัก และการมีพันธะสัญญาระยะยาวต่อกัน
หากแต่จะเคารพในพันธะสัญญาของตัวเอง และผู้อื่น เพื่อถนอมความสุขของตนเองและผู้อื่นไว้
ข้าพเจ้าจะทำทุกอย่างตามกำลังความสามารถเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตลอดจนปกป้องไม่ใหคู่สมรส
และครอบครัวต้องแตกแยก เนื่องจากการประพฤติผิดในกาม

ข้อฝึกอบรมสติข้อที่ ๔
ด้วยความตระหนักรู้ถึงความทุกข์จากการกล่าวถ้อยคำที่ขาดความยั้งคิดและระคายหูผู้อื่น
ข้าพเจ้าตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะบ่มเพาะวาจาที่ไพเราะและตั้งใจฟังอย่างมีสติเพื่อให้ผู้อื่นมีความสุข เบิกบาน ตลอดจน
ช่วยแบ่งเบาทุกข์ของพวกเขา
ข้าพเจ้ารู้ดีว่า คำพูดสามารถก่อให้ความสุข และความทุกข์ จึงขอตั้งจิตมั่นว่าจะพูดแต่ความจริงด้วยถ้อยคำที่ก่อให้
เกิดความมั่นใจ ความเบิกบาน และความหวัง
โดยไม่กระพือข่าวที่ตัวเองไม่รู้แน่ชัด รวมทั้งไม่วิพากษ์วิจารณ์ หรือกล่าวโทษในสิ่งที่ตัวเองไม่แน่ใจ ตลอดจน
ละเว้นจากการกล่าววาจาที่จะก่อให้เกิดความแตกแยกไม่ปรองดองกัน
หรือทำให้ครอบครัว ชุมชน ต้องแตกแยกร้าวฉาน ข้าพเจ้าจะพยายามทุกวิถีทางที่จะประนีประนอน และแก้ไขความขัดแย้งต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ หรือ เรื่องเล็กก็ตาม

ข้อฝึกอบรมสติข้อที่ ๕
ด้วยความตระหนักรู้ถึงความทุกข์จากการบริโภคที่ขาดสติ
ข้าพเข้าตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะบ่มเพาะสุขภาพที่ดีทั้งกาย และใจ เพื่อตัวเอง ครอบครัว และสังคม ด้วยการกิน ดื่ม
บริโภคอย่างมีสติ พร้อมทั้งจะรับเอาแต่สิ่งที่จะช่วยถนอมความสงบสุข
ความเบิกบาน ให้แก่ร่างกาย และวิญญาณของตัวเอง ครอบครัวและสังคม
ข้าพเจ้าตั้งจิตมั่นว่าจะไม่ใช้แอลกอฮอล สิ่งเสพติดอื่นใด หรือ การรับประทานอาหาร และสิ่งให้โทษ อย่างเช่น รายการ
โทรทัศน์ นิตยสาร หนังสือ ภาพยนตร์ และ การสนทนา บางประเภท
เพราะตระหนักรู้ว่าการทำร้ายร่างกายและวิญญาณของตัวเอง ด้วยสิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยเหล่านี้ เท่ากับการทรยศต่อ
บรรพบุรุษ พ่อแม่ สังคมและลูกหลานของตัวเอง
ข้าพเจ้าจะพยายามแปรเปลี่ยนความรุนแรง ความกลัว ความโกรธ รวมทั้งความสับสน ในตัวเอง และสังคม โดยละเว้นจากการ
บริโภคสิ่งที่เป็นพิษภัย เพื่อตัวเองและสังคม
ข้าพเจ้าเข้าใจดีว่า การบริโภคอย่างถูกต้องเหมาะสมนั้น เป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปรตัวเอง และสังคม