Wednesday, February 4, 2009

ศีลห้า

การรักษาศีลนั้น ถ้าว่าแล้ว คำว่า "ศีล" แปลว่า ปกติ (มีคำแปลมากมาย แต่เอาเฉพาะที่จำเป็น) คนที่มีปกติก็คือจะ

๑. ไม่ฆ่าสัตว์

๒. ไม่ลักทรัพย์

๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม

๔. ไม่พูดเท็จ

๕. ไม่ดื่มสุรา

 

ศีลข้อหนึ่ง

คน ที่มีปกติไม่ทำห้าอย่างนี้ ก็คือคนไม่ผิดศีลห้า คนๆ นั้นก็จะมีความเป็นอยู่อย่างปกติสุข ลองสังเกตว่า จริงมั้ยคนที่ผิดศีลห้าแล้วเดือดร้อน ทุกวันนี้ดูได้ในสังคม คนที่ผิดศีลห้า ก็ต้องถูกเค้าฆ่าตาย หรือไม่ก็ถูกตามล่า ติดตาราง ก็ไม่เป็นปกติสุข

 

ศีลข้อสอง

คน ที่ลักขโมยทรัพย์สินของคนอื่น ผิดศีลข้อสอง ก็จะไม่มีความเป็นปกติสุขไปได้ จะต้องหลีกเร้น หลบซ่อน ถูกตามล่า จับกุม เรียกตัวมาดำเนินคดี

 

ศีลข้อสาม

การ ประพฤติผิดในกาม ข้อนี้จริงๆ แล้วเป็นพื้นฐานของครอบครัว ถ้าครอบครัวใดผิดศีลข้อนี้ ก็เป็นอันว่า ครอบครัวนั้นไม่เป็นปกติสุข ครอบครัวแตกแยก พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกไปทาง นี่คือจุดสำคัญที่จะทำลายความมั่นคงของครอบครัว มีคนกล่าวว่า "สามีขี้เหล้า ขี้ไพ่ ก็ช่างเถอะ ยอมได้ แต่ผิดศีลข้อสาม ยอมไม่ได้" ภาษิตไทยบอกว่า "เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร" นี่ เป็นเรื่องของกิเลส เรื่องของธรรมดา ธรรมชาติ ของใครใครก็รัก ของใครใครก็หวง เพราะฉะนั้น การผิดศีลข้อสาม จึงเป็นเหตุให้เกิดความร้าวรานในครอบครัว และเป็นการทำลายสังคมที่เห็นได้ชัด เพราะกระทบกระเทือนไปถึงเยาวชนด้วย

 

ศีลข้อสี่

มุสา การ พูดมุสา ทำง่ายที่สุด เพราะว่าการพูดเท็จ บางครั้งไม่ตั้งใจ บางครั้งมีความตั้งใจ เพราะฉะนั้น ศีลทุกข้อจะมีองค์ประกอบว่าจะศีลขาดขนาดไหน ถ้าเบาหน่อยเรียกว่า ศีลด่าง ศีลพร้อย ศีลยังไม่ขาด (ข้อ ๑ การฆ่า ต้องครบองค์ห้า คือ สัตว์นั้นมีชีวิต เราก็รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต มีจิตคิดจะฆ่า เพียรพยายามฆ่า - สัตว์นั้นตายลง อันนี้เรียกว่าผิดร้อยเปอร์เซนต์ เรียกว่า ศีลขาด แต่ถ้าไม่มีเจตนา ศีลก็เป็นเพียงด่างพร้อย เช่น ไม่รู้ว่ามียุง เอามือลูบไป ยุงตาย ศีลไม่ขาดแต่ว่าด่างพร้อย ไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้น ศีลทุกข้อจะมีองค์ประกอบ)

 

ศีลข้อห้า

การเสพย์สุรา ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยกว่าข้ออื่นๆ และในบางแห่งจะอธิบายไว้ว่า ตามปกติเราก็มีสติอ่อนอยู่แล้ว ถ้าพอไปดื่มสุรา (ท่านเรียก "น้ำทำลายสติ") ถ้า คนเราขาดสติแล้ว ก็ทำได้ทุกอย่าง จึงสังเกตว่า คนจะปล้น จะฆ่า โจร มิจฉาชีพ ลองดูโทรทัศน์ ไม่ว่าเรื่องอะไร ตัวผู้ร้ายต้องถือขวดเหล้า ดูออกเลย นี่คือสื่อ จะเห็นว่า เหล้าเป็นตัวย้อมใจให้คนกล้าหาญที่จะทำชั่วมากขึ้น บางคนถ้าไม่ดื่มสุรามีความละอาย ไม่กล้าร้องเพลง ไม่กล้าทำอะไรทั้งสิ้น แต่พอดื่มสุรา มึนๆ เข้าหน่อย ตึงๆ เข้าหน่อย ร้องเพลงก็ได้ รำก็ได้ ฆ่าก็ได้ ปล้นก็ได้ เพราะฉะนั้น ท่านจึงสังเกตได้ว่า แหล่งอบายมุขซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงทั้งหลาย จะต้องมีสุรา แล้วก้าวไปหานารี ไปพาชี ไปกีฬาบัตร เหล่านี้โยงกัน หมายความว่า คนที่ดื่มสุราแล้ว ก็จะสามารถประพฤติชั่วได้หมดทุกอย่าง เพราะว่าไม่มี "สติ" จึงเรียกว่า "น้ำทำลายสติ"

No comments: