Sunday, December 14, 2008

หลักธรรมในพุทธศาสนา

หลักธรรมในพุทธศาสนา

คือ หลักความเป็นไปของโลก พระพุทธศาสนาเน้น ความจริงที่เกิดขึ้นกับโลก การเกิด ดับ ไม่มุ่งเน้นความสบาย พระพุทธศาสนาสอนให้มุ่งเน้นในส่วนที่โลกกำลังดำเนินอยู่ เกี่ยวพัน เกี่ยวข้องกับระบบทั้งมวล เราอยู่ในจักรวาล ก็ย่อมดำเนินตามระบบของจักรวาล เราอยู่ในโลกก็ย่อมดำเนินตามระบบของโลก ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ธรรมชาติก็คือระบบ ทุกอย่างพัวพันกับระบบ พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักระบบ และอยู่บนระบบได้อย่างเป็นสุข รู้ทันระบบ ดำเนินอยู่ในระบบได้อย่างเป็นสุข ไม่ระแวงกับระบบ แต่สามารถอยู่ในขณะที่ระบบกำลังกลั่นแกล้งเราได้ อยู่กับธรรมชาติ ได้อย่างเป็นสุข รู้ทางพ้นจากทุกข์ หรือพ้นจากระบบได้ในทางที่ถูกต้อง เหมาะสม นี่คือ หลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่แท้จริง ในพระไตรปิฎกของพุทธศาสนาจะพบคำว่า ธรรมและวินัย ควบกันไปเช่นพระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า ธรรมวินัยใดอันเราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้นจักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลายโดยกาลล่วงไปแห่งเรา

คำว่า ธรรม พระเดชพระคุณพระธรรมโกศาจารย์ หลวงพ่อพุทธทาส อินทปัญโญ กล่าวว่า คือ

  1. ธรรมชาติ ธรรมชาตินั้นรวมทุกสิ่งทุกอย่าง แม้มนุษย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเหมือนกัน ในความคิดของคนส่วนใหญ่แล้ว มักจะแยกมนุษย์ออกจากธรรมชาติ จนมีความคิดที่จะพิชิตธรรมชาติหรือเอาชนะธรรมชาติ อยู่เหนือธรรมชาติ อย่างพวกตะวันตกนั้นเขามีความคิดอย่างนี้ เขาจึงพยายามพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆหมายเอาชนะธรรมชาติให้ได้ อากาศมันร้อนนักก็สร้างเครื่องทำความเย็นขึ้นมา ถ้าอากาศมันหนาวนักก็สร้างเครื่องทำความร้อนขึ้นมา และอื่นๆอีกมากมาย พวกเขามีความรู้สึกว่ากำลังเอาชนะธรรมชาติได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเพียงสามารถป้องกันความร้อนจากธรรมชาติได้ในระดับ หนึ่งเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนน้อยนิดเดียว เพียงในห้องเล็กๆ หรือในตึกเท่านั้น แต่กลับทำให้เกิดปัญหาอันใหญ่หลวงขึ้นมา เครื่องทำความเย็นนี้ทำให้โลกมีความร้อนมากยิ่งขึ้นไปทุกทีๆ เพราะสารซีเอฟซีที่ปล่อยออกมา ก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก
  2. กฎของธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างจะดำเนินไปตามกฎธรรมชาติ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็จะเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว แล้วก็เปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยชรา และในที่สุดก็จะตายลง เมื่อมีเกิดก็ต้องมีตาย ถ้าไม่เกิดก็ไม่ตาย ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุ เมื่อมีเหตุเป็นตัวเริ่มแล้วก็จะดำเนินไปตามกฎธรรมชาติ เมื่อมีเหตุให้เกิด การเกิดนี้ก็เป็นเหตุให้มีความดับไปเป็นธรรมดา แม้แต่จักรวาลทั้งหลายก็เป็นไปตามกฎของธรรมชาติด้วยทั้งสิ้น
  3. หน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ อาจจะยังมีความสงสัยอยู่ว่าหน้าที่ตามกฎธรรมชาติเป็นอย่างไร หน้าที่คือการกระทำที่ถูกต้อง อาจจะยังสงสัยต่ออีกว่าถูกต้องอย่างไร ก็ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ แล้วแก่ความเป็นมนุษย์อย่างไร ก็แก่ความเป็นมนุษย์ทุกขั้นทุกตอน แล้วมันทุกขั้นทุกตอนอย่างไรล่ะ ก็ทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการของตนๆนั่นอย่างไรล่ะ ถ้าเราเข้าใจธรรมะได้อย่างนี้ จะสำเร็จประโยชน์มากกว่าที่ว่าธรรมะคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ขอให้ช่วยจำกันเอาไว้ว่า ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือการกระทำที่ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการของตนๆ
  4. การได้รับผลตามกฎของธรรมชาติ ก็เป็นผลที่ได้รับจากการทำหน้าที่ เป็นครูเป็นอาจารย์ ก็ทำหน้าที่ของครูของอาจารย์ให้ถูกต้อง ก็จะได้ผลออกมาดีถูกต้องคือได้ลูกศิษย์ที่ดีมีคุณธรรม มีคุณภาพ เป็นเจ้าหน้าที่การเงินก็ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง เป็นชาวนาชาวสวนก็ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง เป็นหมอแพทย์ และอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง เมื่อทำหน้าที่อย่างถูกต้องแล้ว ก็จะไม่มีการคดโกงเลย เพราะว่ามันไม่ได้มีหน้าที่คดโกง มีหน้าที่ในการทำผลงานออกมาให้ดีให้ถูกต้องที่สุด นี่แหละผลของการทำหน้าที่ให้ถูกต้อง ก็จะได้ผลที่ถูกต้องเป็นที่หน้าพอใจอย่างที่สุด

คำว่า ธรรม พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตโต) กล่าวไว้ว่า คือ

"สภาพที่ทรงไว้, ธรรมดา, ธรรมชาติ สภาวะธรรม, สัจธรรม, ความจริง, เหดุ, ต้นเหตุ, สิ่ง, ปรากฏการณ์ ฯลฯ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดียบทความ ธรรม ซึ่งบทความนี้คัดลอกมาจากวิกิพีเดียและนำมาใช้ภายใต้สัญญา GFDL

 

No comments: